ระบบถ่ายภาพ (Exposure Mode)

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

โดยทั่วไป ระบบถ่ายภาพหมายถึงการควบคุมความเร็วชัตเตอร์และขนาดช่องรับแสงให้สอดคล้องกับปริมาณ
แสงในแต่ละภาพ ตามการชี้นำของเครื่องวัดแสง หรือ วิธีการปรับตั้งความเร็วชัตเตอร์และขนาดช่องรับแสง นั้น
เอง สำหรับกล้องดิจิตอล นอกจากการควบคุมความเร็วชัตเตอร์และขนาดช่องรับแสงแล้ว ยังควบคุมระบบอื่น ๆ
อีกด้วย เช่น ความคมชัด ความอิ่มตัวของสีความเปรียบต่าง ระบบวัดแสง ระบบถ่ายภาพต่อเนื่อง ระบบปรับ
ความชัด ฯลฯ
การเข้าสู่ระบบถ่ายภาพ เลือก Menu > Mode หรืออาจจะมีวงแหวนปรับตั้งระบบถ่ายภาพด้านบนตัวกล้องโดย
ตรงระบบถ่ายภาพในกล้องดิจิตอลส่วนใหญ่จะมีให้เลือกใช้งานดังนี้






1. ระบบ Auto เป็นระบบถ่ายภาพแบบ Fully Automatic ซึ่งควบคุมการทำงานกล้องทั้งหมดแบบอัตโนมัติทั้ง
ระบบถ่ายภาพ ความเร็วชัตเตอร์ช่องรับแสง ระบบสีความคมชัด ระบบแฟลช ฯลฯ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่
ต้องการความรวดเร็ว และไม่ต้องการปรับตั้งระบบการทำงานของกล้องมากมายนัก








2. ระบบถ่ายภาพแบบโปรแกรมถ่ายภาพแบบต่างๆ (Special Program) ออกแบบมาให้ใช้ถ่ายภาพในลักษณะ
ต่าง ๆ กันตามลักษณะของภาพ เนื่องจากภาพแต่ละรูปแบบต้องการการปรับตั้งความเร็วชัตเตอร์ขนาดช่องรับ
แสง ความคมชัด ความเปรียบต่าง ความอิ่มตัวของสีฯลฯ ที่แตกต่างกัน ผู้ผลิตกล้องจึงสร้างโปรแกรมถ่ายภาพ
แบบต่าง ๆ ตามลักษณะภาพออกมาให้เลือกใช้งาน โดยทั่วไปจะมีให้เลือกใช้งานดังนี้
1. ระบบโปรแกรมถ่ายภาพบุคคล สำหรับการถ่ายภาพบุคคล
2. ระบบโปรแกรมถ่ายภาพเคลื่อนไหว สำหรับการถ่ายภาพเคลื่อนที่ให้หยุดนิ่ง
3. ระบบโปรแกรมถ่ายภาพกลางคืน สำหรับถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย
4. ระบบโปรแกรมถ่ายภาพทิวทัศน์สำหรับถ่ายภาพวิวหรือภาพในระยะไกล ภาพมุมกว้าง
5. ภาพมาโคร สำหรับถ่ายภาพในระยะใกล้
นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมถ่ายภาพแบบอื่นๆ อีกมากแล้วแต่ผู้ผลิตจะออกแบบมาให้ใช้งาน เช่น โปรแกรมถ่าย
ภาพแพนกล้อง โปรแกรมถ่ายภาพย้อนแสง โปรแกรมถ่ายภาพกลางคืนโดยใช้แฟลช ฯลฯ เหมาะสำหรับการ
ถ่ายภาพที่ต้องการความรวดเร็ว สะดวก และได้ผลดีหรือผู้ใช้ไม่มีความรู้เรื่องการถ่ายภาพมากนัก การใช้งาน
ระบบโปรแกรมควรดูค่าความเร็วชัตเตอร์และขนาดช่องรับแสงว่ามากหรือน้อยเกินไปหรือไม่เพราะบางครั้งเรา
เลือกระบบถ่ายภาพเคลื่อนไหวเพื่อต้องการถ่ายภาพเคลื่อนไหวให้หยุดนิ่ง แต่ปริมาณแสงไม่มากพอทำให้ใช้
ความเร็วชัตเตอร์สูงไม่ได้ทำให้ได้ภาพไม่เป็นไปตามจุดประสงค์



3. ระบบโปรแกรม (Program) เป็นระบบถ่ายภาพอัตโนมัติซึ่งผู้ใช้ไม่ต้องตั้งความเร็วชัตเตอร์และขนาดช่องรับ
แสง สามารถถ่ายภาพได้เลยโดยระบบประมวลผลในกล้องจะควบคุมความเร็วชัตเตอร์ขนาดช่องรับแสง ให้
เหมาะสมกับสภาพแสงอัตโนมัติเหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่ต้องการความรวดเร็วหรือความสะดวกผู้ใช้ควรดูค่า
ความเร็วชัตเตอร์และขนาดช่องรับแสงที่กล้องเลือกให้ว่าเหมาะสมในการใช้งานด้วยหรือไม่โดยดูจากข้อมูล
เปิดรับแสงในช่องมองภาพ หรือที่จอ LCD ด้านหลังกล้อง





4. ระบบโปรแกรมชิพ (Program Shift, P*) การทำงานเหมือนกับระบบโปรแกรม แต่ผู้ใช้สามารถเปลี่ยน
แปลงค่าความเร็วชัตเตอร์และขนาดช่องรับแสงได้ตามต้องการ (ในขณะที่ระบบโปรแกรมธรรมดาไม่สามารถ
ทำได้) เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่ต้องการความรวดเร็ว แต่ยังสามารถควบคุมความเร็วชัตเตอร์และขนาด
ช่องรับแสงได้



5. ระบบถ่ายภาพแบบช่องรับแสงอัตโนมัติ(Shutter Priority) ผู้ใช้ต้องตั้งความเร็วชัตเตอร์ที่ต้องการใช้ส่วน
กล้องจะตั้งขนาดช่องรับแสงที่เหมาะสมให้อัตโนมัติตามสภาพแสง เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่ต้องการความ
รวดเร็ว และผู้ใช้ต้องการควบคุมความเร็วชัตเตอร์เป็นหลัก
ระบบช่องรับแสงอัตโนมัติมีข้อจำกัดอยู่ตรงที่ขนาดช่องรับแสงที่ปรับได้มีจำกัด บางสภาพแสงกล้องอาจจะไม่
สามารถตั้งขนาดช่องรับแสงให้ได้เช่น ตั้งความเร็วชัตเตอร์สูงในสภาพแสงน้อย หรือตั้งความเร็วชัตเตอร์ต่ำในสภาพแสงจ้า ทำให้กล้องปรับช่องรับแสงไม่ได้กล้องจะเตือนว่าภาพสว่างไป มืดไป หรือไม่ทำงานโดยแสดง
สัญลักษณะที่จอแสดงการทำงาน เช่น ขนาดช่องรับแสงเปลี่ยนเป็นสีแดง กระพริบ หรือมีข้อความขึ้นเตือน


6. ระบบถ่ายภาพแบบความเร็วชัตเตอร์อัตโนมัติ(Aperture Priority) ผู้ใช้ต้องตั้งขนาดช่องรับแสงที่ต้องการใช้
กล้องจะตั้งความเร็วชัตเตอร์ให้อัตโนมัติตามสภาพแสง เหมาะกับการถ่ายภาพที่ต้องการความรวดเร็ว และควร
คุมขนาดช่องรับแสงเป็นหลัก
ระบบความเร็วชัตเตอร์อัตโนมัติมีข้อจำกัดในการใช้งานอยู่บ้างตรงที่ ความเร็วชัตเตอร์มีให้ใช้งานจำกัด บาง
ครั้งกล้องอาจจะปรับตั้งความเร็วชัตเตอร์ให้ไม่ได้เช่น เปิดช่องรับแสงแคบในสภาพแสงน้อย ทำให้ความเร็ว
ชัตเตอร์ต่ำเกินไป หรือเปิดช่องรับแสงกว้างในสภาพแสงจ้า ทำให้ความเร็วชัตเตอร์สูงเกินไป ซึ่งกล้องจะเตือน
ให้ผู้ใช้ทราบโดยแสดงสัญลักษณ์หรือตัวเลขความเร็วชัตเตอร์กระพริบ เป็นต้น



7. ระบบถ่ายภาพปรับตั้งเอง (Manual) ผู้ใช้ต้องตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์และขนาดช่องรับแสงด้วยตนเอง ให้
สัมพันธ์กับความสว่างของแสง โดยอาศัยความช่วยเหลือของระบบวัดแสง เหมาะกับการถ่ายภาพที่ต้องการควบ
คุมความเร็วชัตเตอร์และขนาดช่องรับแสงโดยผู้ใช้ทั้งหมด ถ่ายภาพโดยใช้เครื่องวัดแสงภายนอกตัวกล้อง หรือ
ถ่ายภาพในสตูดิโอโดยใช้แฟลช
กาปรับตั้งมีขั้นตอนดังนี้
1. ตั้งความเร็วชัตเตอร์ที่ต้องการใช้งาน….วัดแสง….ปรับช่องรับแสงให้เสกลวัดแสงอยู่ที่ 0 หรือกึ่งกลาง ….
ถ่ายภาพ หรือ
2. ตั้งขนาดช่องรับแสงที่ต้องการใช้งาน….วัดแสง….ปรับความเร็วชัตเตอร์ให้เสกลวัดแสงอยู่ที่ 0 หรือกึ่งกลาง
….ถ่ายภาพ
ถ้าเสกลวัดแสงอยู่ที่+ ภาพอาจจะจะสว่างเกินไป - ภาพอาจจะจะมืดเกินไป

0 ความคิดเห็น: